11 June 2002

สรุปข้อสนเทศ: STECON-W

- สรุปข้อสนเทศ - (Information Memorandum) STECON-W ลักษณะ เงื่อนไข และสาระสำคัญใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ............................................................................... วันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน : เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2545 (เริ่มทำการซื้อขายวันที่ 13 มิถุนายน 2545) ประเภทหลักทรัพย์จดทะเบียน : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยกำหนดให้สามารถให้ใช้ สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุครบ 1 ปี คือวันที่ 30 พฤษภาคม 2546 จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ : 17,000,000 หน่วย ผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ : บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ : ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท (สิบบาท) ทั้งนี้ ราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิอาจเปลี่ยน แปลงแก้ไขได้ตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการปรับสิทธิของหนังสือชี้ชวน ส่วนที่ 3 ข้อ 1.15 ชนิดของใบสำคัญแสดงสิทธิ : ชนิดระบุชื่อผู้ถือและเปลี่ยนมือได้ อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ : 5 ปี นับจากวันออกใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 31 พฤษภาคม 2545 โดยที่วันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายคือ วันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ : หน่วยละ 0 บาท การกระจายการถือใบสำคัญแสดงสิทธิ : ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2545 จำนวนราย จำนวนหน่วย % ของใบสำคัญ แสดงสิทธิ ที่จดทะเบียนในครั้งนี้ 1. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ 10 8,762,841 63.32 และหน่วยงานของรัฐ กรรมการ ผู้จัดการและ ผู้บริหารรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคคลที่มีความ สัมพันธ์ ผู้ถือหุ้นที่ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ > 5% โดย นับรวมผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ มีข้อตกลงในการห้ามขายใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน เวลาที่กำหนด 2. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายย่อยที่ถือไม่ต่ำกว่า 619 6,231,197 36.64 1 หน่วยการซื้อขาย 3. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย 153 5,955 0.04 รวมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งสิ้น 782 17,000,000 100.00 หมายเหตุกำหนดให้ 1 หน่วยการซื้อขายเท่ากับ 100 หน่วยใบสำคัญ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายใหญ่ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2545 ชื่อ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ ร้อยละของ ใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมด 1. Finansa Investment, Ltd. 4,204,500 24.73 2. บริษัท อิควิตี้ พลัส จำกัด 3,570,221 21.00 3. นายอนุทิน ชาญวีรกูล 1,331,527 7.83 4. นายเจษฎา เลิศนันทปัญญา 845,200 4.97 5. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล 800,000 4.71 6. นายพงษ์เอก ตันพานิช 651,400 3.83 7. บริษัท เบสท์ ควอลิตี้ สกิลส์ จำกัด 555,000 3.26 8. RHB BANK (L) LTD. 399,858 2.35 9. น.ส. อนิลรัตน์ ชาญวีรกูล 330,000 1.94 10. นายมาศถวิล ชาญวีรกูล 330,000 1.94 รวม 13,017,706 76.57 นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ : บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้รับชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญ : บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ตามสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ การใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1. จำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจะต้องเป็นจำนวนเต็มเท่านั้น โดยผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ 1 หุ้นในราคาการใช้สิทธิเท่ากับมูลค่าที่ ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท (สิบบาท) โดยอัตราการใช้สิทธิ และราคาการใช้สิทธิอาจเปลี่ยนแปลงแก้ไข ได้ตามเงื่อนไขการปรับสิทธิในหนังสือชี้ชวน ในส่วนที่ 3 ข้อ 1.15 2. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งประสงค์จะใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท จะต้องแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ได้ที่ บริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) 32/59-60 อาคารซิโน-ไทย ทาวเวอร์ ชั้น 29-30 ถนนอโศก สุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 โทรศัพท์ 02-260-1321 โทรสาร 02-2601339 ระหว่างเวลา 8:30 น. ถึง 15:30 น. ภายใน 5 วันก่อนวันกำหนดการใช้ สิทธิในแต่ละครั้ง ยกเว้น ระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ซึ่งผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ สามารถแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิได้ภายใน 15 วันก่อนวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เพื่อขอพักการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัท (หรือการแขวนป้าย SP) ในระหว่างระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายนี้ด้วย 3. บริษัทจะไม่มีการปิดสมุดทะเบียนเพื่อพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ เว้นแต่ในกรณีการใช้สิทธิ ครั้งสุดท้ายจะมีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ 21 วันก่อนการแจ้งวันกำหนดการใช้สิทธิ บริษัท จะส่งจดหมายลงทะเบียนถึงผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันปิดสมุดทะเบียนให้ทราบ ถึงวันใช้สิทธิ ในกรณีวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ ตรงกับวันหยุดทำการของธนาคาร พาณิชย์ให้เลื่อนเป็นวันทำการถัดไป 4. การแจ้งข่าวเกี่ยวกับการใช้สิทธิ บริษัทจะแจ้งข่าวเกี่ยวกับขั้นตอนการใช้สิทธิ ระยะเวลาการ ใช้สิทธิ อัตราการใช้สิทธิ ราคาที่จะซื้อหุ้นสามัญใหม่ พร้อมทั้งสถานที่ที่ใช้สิทธิในระบบ ELCID ไม่น้อยกว่า 5 วัน ก่อนวันแรกของระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิแต่ละครั้ง 5. วันกำหนดการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท สามารถใช้สิทธิได้ในเวลา ทำการของนายทะเบียนหุ้นของบริษัท ในวันที่ 30 ของเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม ของทุกปี ตลอดอายุใบสำคัญแสดงสิทธิ หากวันกำหนดการใช้สิทธิในครั้งใดตรงกับวันหยุดทำการของนายทะเบียนหุ้นของ บริษัท ให้เลื่อนเป็นวันเปิดทำการถัดไป โดยวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งแรกคือวันที่ใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุครบ 1 ปี และวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายคือวันที่ใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุครบ 5 ปี วิธีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1. ภายในระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อ หุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิ จะต้องกรอกรายละเอียด และลงลายมือชื่อในใบแจ้งความจำนงในการใช้ สิทธิซื้อหุ้นสามัญ ที่แนบอยู่กับใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือขอรับใบแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ภายใน 5 วันก่อนถึงวันกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละครั้งจากบริษัท ทั้งนี้ ถ้าเป็นการแสดงความจำนงในการใช้สิทธิครั้ง สุดท้าย ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถมาขอรับใบแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ภายใน 15 วัน ก่อนถึงวันกำหนดการใช้สิทธินั้น และให้นำส่งใบสำคัญแสดงสิทธิ รวมทั้งใบแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้น สามัญ หรือใบแจ้งให้ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญแก่บริษัท ซึ่งเป็นสถานที่ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิต่อไป พร้อมกับชำระเงินตามจำนวนที่ใช้สิทธิ อนึ่ง ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องปิดอากรแสตมป์ให้ถูกต้องตามบท บัญญัติแห่งประมวลกฏหมายรัษฎากร ว่าด้วยหมวดอากรแสตมป์หรือข้อบังคับ หรือกฎหมายต่างๆ ที่ใช้บังคับ เกี่ยวกับการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญด้วย นอกจากนี้ เมื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้างต้น เพื่อแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญครบถ้วนแล้ว ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะไม่สามารถเพิกถอนการ ใช้สิทธิได้ 2. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจะต้องปฏิบัติ ตามเงื่อนไขการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ โดยดำเนินการและส่งเอกสารดังต่อไปนี้ให้แก่บริษัทตามสถานที่ ติดต่อข้างต้น ก) ใบแจ้งความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ ที่ได้กรอกข้อความถูกต้อง ชัดเจน และครบถ้วน แล้วทุกรายการ ข) หลักฐานใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ ตามแบบที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด ตามจำนวนที่ระบุอยู่ในใบแจ้งความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ ค) ชำระเงินตามจำนวนในการใช้สิทธิ ที่ระบุในใบแจ้งความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ โดย ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจะต้อง ชำระเงินเป็น เช็ค ดร๊าฟท์ ตั๋วแลกเงินธนาคาร หรือคำสั่งจ่ายเงินธนาคารที่สามารถเรียก เก็บได้ในกรุงเทพมหานคร ภายใน 2 วันทำการ นับจากวันที่ในการใช้สิทธิแต่ละครั้ง และ ขีดคร่อมสั่งจ่าย "บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)" ทั้งนี้ การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญดังกล่าวจะสมบูรณ์ ต่อเมื่อบริษัทได้เรียกเก็บเงินจำนวนดังกล่าว ได้แล้วเท่านั้น 3. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าอากรแสตมป์ และ/หรือ ภาษีที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากการ ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิ 4. กรณีที่ใบสำคัญแสดงสิทธิอยู่ในระบบไร้ใบหุ้น (Scripless System) ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ ต้องการใช้สิทธิต้องแจ้งความจำนง และกรอกแบบคำขอให้ออกใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิตามที่ตลาดหลักทรัพย์ กำหนด โดยยื่นต่อบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker) ของตน และ Broker จะดำเนินการแจ้งกับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (Thailand Securities Depository Company Limited: TSD) ("ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์") เพื่อขอถอนใบสำคัญแสดงสิทธิ เพื่อให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ นำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิซื้อหุ้น สามัญกับบริษัทเพื่อดำเนินการใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ข้างต้น 5. ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิชำระจำนวนเงินในการใช้สิทธิ และ/หรือ ค่าอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วน บริษัทมีสิทธิที่จะดำเนินการประการใดประการหนึ่งดังต่อไปนี้แล้วแต่บริษัทจะเห็นสมควร 1) ถือว่าการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งนั้นสิ้นสภาพลง โดยไม่มีการใช้สิทธิ หรือ 2) ถือว่าจำนวนหุ้นสามัญที่จองซื้อนั้น มีจำนวนเท่ากับจำนวนที่พึงได้รับตามจำนวนเงินในการใช้สิทธิ ซึ่งบริษัทได้รับชำระไว้จริงตามราคาใช้สิทธิในขณะนั้น หรือ 3) ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ ชำระเงินเพิ่มเติมตามจำนวนที่ประสงค์ จะใช้สิทธิ ครบถ้วนภายในระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งนั้น หากบริษัทไม่ได้รับ เงินครบตามจำนวนการใช้สิทธิ และ/หรือ ค่าอากรแสตมป์ภายในระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะ ถือว่าการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิในครั้งนั้นสิ้นสภาพลง โดยไม่มีการใช้สิทธิ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ตามข้อ 1)- 3) บริษัทจะส่งเงินที่ได้รับไว้และใบสำคัญแสดงสิทธิคืนให้แก่ผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ภายใน 14 วันนับจากวันถัดจากวัน กำหนดการใช้สิทธิ โดยไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยให้ 6. เมื่อพ้นกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย แต่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิยังมิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้สิทธิ ที่กำหนดไว้อย่างครบถ้วน ให้ถือว่าใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธินั้นๆ สิ้นสภาพลงโดยไม่มี การใช้สิทธิ และผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิจะใช้สิทธิไม่ได้อีก 7. จำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ จะแสดงความจำนงขอใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ จะต้องเป็นจำนวนเต็มเท่านั้น โดยอัตราการใช้สิทธิเท่ากับหนึ่งใบสำคัญแสดงสิทธิต่อหนึ่งหุ้นสามัญ เว้นแต่ จะมีการปรับสิทธิตามที่ได้ระบุไว้ในเงื่อนไขการปรับสิทธิของหนังสือชี้ชวน ส่วนที่ 3 ข้อ 1.15 8. เมื่อได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการแจ้งความจำนงการใช้สิทธิ เพื่อจองหุ้นสามัญ กล่าวคือ ได้ส่งมอบทั้ง หลักฐาน ใบสำคัญแสดงสิทธิ ใบแจ้งความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญที่ชำระอากรแสตมป์แล้ว และชำระเงิน ค่าจองซื้อหุ้นสามัญถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ความจำนงในการใช้สิทธินี้ไม่อาจถูกเพิกถอนได้ เว้นแต่ จะได้รับความยินยอมจากบริษัท 9. ในกรณีที่มีเศษของจำนวนหุ้นสามัญ ที่จะได้รับตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ เมื่อต้องมีการ เปลี่ยนแปลงอัตราการใช้สิทธิตามเกณฑ์การปรับราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการปรับ สิทธิของหนังสือขี้ชวน ส่วนที่ 3 ข้อ 1.15 ให้ตัดเศษของหุ้นสามัญนั้นทิ้ง โดยไม่มีการชดใช้เงินหรือค่าเสียหาย ใดๆ สำหรับเศษของหุ้นสามัญที่ถูกตัดทิ้งดังกล่าว 10. จำนวนหุ้นที่จะออกเพื่อรองรับการใช้สิทธิเมื่อมีการใช้สิทธิ จะคำนวณโดยการนำจำนวนเงินในการ ใช้สิทธิ ซึ่งผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้ชำระตามที่กล่าวข้างต้น หารด้วยราคาการใช้สิทธิในขณะที่มีการใช้สิทธินั้น โดยบริษัทจะออกหุ้นสามัญให้เป็นจำนวนเต็มไม่เกินจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ คูณด้วยอัตราการใช้สิทธิ ภายหลัง จากการปรับสิทธิ ตามที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการปรับสิทธิของหนังสือขี้ชวน ส่วนที่ 3 ข้อ 1.15 แล้ว บริษัทจะ ออกหุ้นสามัญให้จำนวนเต็มเท่านั้น ในกรณีที่เหลือเศษอยู่หลังจากการคำนวณดังกล่าว บริษัทจะไม่คิดคำนวณและ ชำระจำนวนเงินดังกล่าวคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ 11. ภายหลังจากวันกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง บริษัทจะยื่นขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้ว ของบริษัทต่อกระทรวงพาณิชย์ตามจำนวนหุ้นสามัญที่จะออกใหม่สำหรับสิทธินั้นภายใน 14 วัน นับแต่วันที่บริษัท ได้รับชำระค่าหุ้นครบตามจำนวนการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง หรือนับแต่วันครบกำหนดการใช้สิทธิ และบริษัทจะ ดำเนินการจดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้ใช้สิทธินั้น เข้าเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ตามจำนวนหุ้นสามัญที่คำนวณได้จากการใช้สิทธินั้น การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ : 1. บริษัทต้องดำเนินการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ ตลอดอายุใบสำคัญเมื่อเกิดเหตุการณ์ ใดเหตุการณ์หนึ่งดังต่อไปนี้ ก) เมื่อบริษัทเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท อันเป็นผลมาจากการรวมหรือการ แบ่งแยกหุ้นสามัญที่ได้ออกแล้วของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะปรับราคาการใช้สิทธิ และอัตราการใช้สิทธิ ที่มีผลอยู่ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญจะมีผล โดยจะปรับสิทธิ ณ วันที่มีผลในการ รวมหรือแบ่งแยกหุ้นสามัญที่ออกแล้วของบริษัท เพื่อให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับหุ้นตามจำนวนที่ คำนวณได้ตามสูตร และประเภทเช่นเดียวกับหุ้นสามัญของบริษัทที่ออกภายหลังจากการเปลี่ยนแปลง ดังกล่าว หากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้ใช้สิทธินั้นก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลบังคับ แต่บริษัท ยังมิได้จดทะเบียนหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิกับกระทรวงพาณิชย์ ให้บริษัทออกหุ้นสามัญใหม่ อันเนื่องจากการใช้สิทธิเช่นว่านั้นตามจำนวนและประเภทเช่นเดียวกับหุ้นสามัญของบริษัท ที่ออก ภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญดังกล่าวนั้น ข) เมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลเป็นเงินเกินกว่าอัตราร้อยละ 70 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ ของบริษัท สำหรับการดำเนินงานในรอบระยะเวลาบัญชีใดๆ ระหว่างปี 2545-2549 การคำนวณ อัตราร้อยละของเงินปันผลที่จ่ายให้กับผู้ถือหุ้น ให้คำนวณโดยนำเงินปันผลที่จ่ายจริงในรอบระยะ เวลาบัญชีในแต่ละปีดังกล่าว หารด้วยกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของผลการดำเนินงานของรอบ ระยะเวลาบัญชีนั้น ทั้งนี้ให้การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิมีผลบังคับทันที ตั้งแต่วันแรกที่ผู้ถือหุ้นสามัญไม่มีสิทธิรับเงินปันผลนั้น หรือในวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย XD ค) เมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้น สามัญของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิทันที ตั้งแต่วันแรกที่ ผู้ซื้อหุ้นสามัญไม่มีสิทธิรับเงินปันผลนั้น หรือในวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย XD ง) เมื่อบริษัทเสนอขายหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ ประชาชนทั่วไป โดยราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่ำกว่า "ราคาตลาดของหุ้นสามัญ ของบริษัท" เกินกว่าร้อยละ 10 ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ จะมีผลบังคับทันที ตั้งแต่วันแรกที่ผู้ถือหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้ผู้ถือหุ้น เดิม (Rights Issue) และ/หรือ วันแรกของการเสนอขายหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญ ที่ออกใหม่แก่ประชาชนทั่วไปแล้วแต่กรณี โดยกรณีดังกล่าวข้างต้น ให้เปรียบเทียบราคาเฉลี่ยต่อ หุ้นของหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญที่ออกใหม่กับราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท โดยใช้ ฐานของมูลค่าที่ตราไว้เท่านั้น ราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่คำนวณได้จากจำนวนเงิน ทั้งสิ้นที่บริษัทจะได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญ หักด้วยค่าใช้จ่าย (ถ้ามี) หารด้วยจำนวนหุ้น สามัญที่ออกใหม่ทั้งสิ้น จ) เมื่อบริษัทเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ ประชาชนทั่วไป โดยหลักทรัพย์นั้นให้สิทธิแก่ผู้ถือหลักทรัพย์ในการใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญ หรือใช้สิทธิซื้อหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญ เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดง สิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือหนี้สินอื่นใดที่ให้สิทธิในการแปลงสภาพเป็นหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญ ของบริษัท โดยราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญที่จะออกใหม่เพื่อรองรับ สิทธิดังกล่าวต่ำกว่า "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท" การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ จะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ถือหุ้น ไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ ที่มีสิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือหุ้นสามัญ (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่ เป็นการเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม หรือวันแรกของการเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใด ๆ ที่มีสิทธิที่จะแปลงสภาพ/เปลี่ยนเป็นหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญ กรณีเสนอขายให้กับ ประชาชนทั่วไป ราคาเฉลี่ยของหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญที่ออกใหม่คำนวณได้จาก จำนวนเงินที่จะได้รับ หักด้วยค่าใช้จ่าย (ถ้ามี) จากการออกหลักทรัพย์ใดๆ ที่มีสิทธิในการแปลงสภาพ/เปลี่ยนเป็นหุ้น บุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญ รวมกับเงินที่จะได้รับจากการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นบุริมสิทธิ และ/หรือ หุ้นสามัญนั้น ถ้ามีการใช้สิทธิทั้งหมด หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งสิ้นที่ออกใหม่เพื่อรองรับการใช้สิทธิ 2. บริษัทจะไม่ปรับราคาและอัตราการใช้สิทธิ หากการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธินั้นจะทำให้ราคา การใช้สิทธิในขณะนั้นลดลงน้อยกว่า 1 บาท อย่างไรก็ตาม บริษัทจะนำการเปลี่ยนแปลงราคา และอัตราการ ใช้สิทธิไปรวมสะสมกับการปรับสิทธิในครั้งต่อๆ ไป และจะดำเนินการปรับราคาและอัตราการใช้สิทธิเมื่อราคา เปลี่ยนแปลงการใช้สิทธินั้นลดลงรวมกันแล้วมากกว่าหรือเท่ากับ 1 บาท 3. การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ (ก) ถึง (จ) เป็นอิสระ ต่อกัน และจะคำนวณการเปลี่ยนแปลงตามลำดับเหตุการณ์ก่อนหลังเปรียบเทียบกับราคาตลาดของหุ้นสามัญของ บริษัท สำหรับในกรณีที่เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นพร้อมกัน ให้คำนวณการเปลี่ยนแปลงเรียงตามลำดับดังนี้ คือ (ก) (ข) (ค) (ง) และ (จ) โดยในแต่ละลำดับครั้งที่คำนวณการเปลี่ยนแปลงให้คงสภาพของราคาการ ใช้สิทธิเป็นทศนิยม 3 ตำแหน่ง และอัตราการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 5 ตำแหน่ง 4. การคำนวณเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ (ก) ถึง (จ) จะไม่มีการ เปลี่ยนแปลงซึ่งทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่สูงขึ้น และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิลดลง เว้นแต่กรณีการรวมหุ้น และหากราคาการใช้สิทธิหลังการเปลี่ยนแปลง (ทศนิยม 3 ตำแหน่ง) คูณกับจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิในการ แสดงความจำนงการใช้สิทธิในรอบนั้นคำนวณได้เศษของบาท ให้ตัดเศษของบาททิ้ง นอกจากนี้ ในกรณีที่มีการ เปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิที่มีผลทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท ให้คำนวณราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามสูตร ที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการปรับสิทธิ ในหนังสือชี้ชวน ส่วนที่ 3 ข้อ 1.15.4 แทนการใช้สูตรในข้อ 1.15.1 (ก) ถึง (จ) โดยให้ใช้มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญ ของบริษัทเป็นราคาใช้สิทธิใหม่ และบริษัทจะปรับสิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยปรับเพิ่มอัตราการใช้ สิทธิให้กับผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ 5. ในกรณีที่หุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ ตามจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิของการแสดงความจำนง ในการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง (ทศนิยม 5 ตำแหน่งของอัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง) คำนวณได้ ออกมาเป็นเศษของหุ้น ให้ตัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง 6. ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใดๆ อันทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเสียสิทธิและผลประโยชน์อันพึงได้ โดยที่ เหตุการณ์ใดๆ นั้นไม่ได้กำหนดอยู่ในข้อ (ก) ถึง (จ) หรือในกรณีที่หุ้นสามัญของบริษัท ไม่มีการซื้อขาย ทำให้ไม่สามารถกำหนดราคาตลาดได้ ให้บริษัทและที่ปรึกษาทางการเงินร่วมกันพิจารณา เพื่อกำหนดการ เปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิใหม่อย่างเป็นธรรม และไม่ทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิได้รับผลประโยชน์ด้อยไปจากเดิม โดยให้ถือว่าผลการพิจารณานั้นเป็นที่สุดและให้ที่ปรึกษาทางการเงินแจ้ง ให้ ก.ล.ต. ทราบถึงรายละเอียดดังกล่าวด้วยภายใน 14 วันนับจากวันที่ผลการพิจารณาเป็นที่สุด 7. สถานภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่อยู่ระหว่างวันที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิแสดงความจำนงใช้สิทธิ และวันก่อนที่กระทรวงพาณิชย์จะรับจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว อันเนื่องมาจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดง สิทธิจะมีสถานภาพเช่นเดียวกับใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่ได้แสดงความจำนงใช้สิทธิ และสถานภาพจะสิ้นสุดลง ในวันที่กระทรวงพาณิชย์ได้รับจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว อันเนื่องมาจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ข้างต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บริษัทมีการปรับราคาการใช้สิทธิ และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิในช่วงที่ บริษัทยังไม่ได้นำหุ้นสามัญ ที่เกิดจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิเข้าจด ทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้ทำการใช้สิทธิแล้ว จะ ได้รับการปรับสิทธิย้อนหลัง โดยบริษัทจะดำเนินการออกหุ้นสามัญใหม่เพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิโดยเร็วที่สุด ตามจำนวนที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ สมควรจะได้รับ หากราคาที่ได้ปรับใหม่นั้นมีผลบังคับใช้ โดยหุ้นสามัญส่วนที่เพิ่มใหม่อาจได้รับช้ากว่าหุ้นสามัญ ที่ได้รับก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่เกิน 45 วัน นับจากวันที่มีการปรับสิทธิ 8. หุ้นสามัญใหม่ที่เกิดจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ จะมีสิทธิและได้รับผลประโยชน์อันพึงได้ เหมือนหุ้นสามัญเดิมที่ออก และเรียกชำระเต็มมูลค่าแล้วของบริษัททุกประการ เมื่อกระทรวงพาณิชย์ได้รับจด ทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วของบริษัท 9. หากมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ ตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไข การปรับสิทธิของหนังสือชี้ชวนข้อ 1.15 ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้ใช้สิทธิไปแล้วแต่ยังมีสภาพเหมือนผู้ถือใบ สำคัญแสดงสิทธิ ก็จะได้รับการจัดสรรสิทธิที่เปลี่ยนแปลงนั้นด้วย และหากผู้ที่ได้ใช้สิทธิไปแล้วมีสภาพเหมือน ผู้ถือหุ้น บริษัทจะให้สิทธิตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นที่มาจากการใช้สิทธิทราบถึงสิทธิ ในการปรับสิทธิที่พึงได้ภายใน 7 วันทำการนับจากวันที่ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น 10. เมื่อใดก็ตามที่มีการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ ตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ใน เอกสารประกอบการขายใบสำคัญแสดงสิทธินี้ บริษัทจะส่งหนังสือบอกกล่าวไปยัง ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ ภายใน 14 วันนับจากวันที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และอัตราการใช้สิทธิมีผลบังคับ และลงโฆษณา อย่างน้อย 1 ครั้งในหนังสือพิมพ์รายวันฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่มีการตีพิมพ์ในประเทศไทยโดยไม่ ชักช้า เพื่อแจ้งราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิที่กำหนดขึ้นใหม่ รวมทั้งข้อเท็จจริงโดยย่อของสาเหตุ ที่มีการปรับสิทธิ วิธีการคำนวณ และวันที่ที่การปรับสิทธิดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับ โดยจะปรึกษาต่อที่ปรึกษา ทางการเงินเพื่อร่วมกันพิจารณาการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้ถูกต้องและเป็นธรรม การออกและส่งมอบหุ้นสามัญออกใหม่ : บริษัทจะส่งมอบใบหุ้นสามัญที่ระบุชื่อของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 45 วัน นับจากวันกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง และจะส่งคืนใบสำคัญแสดงสิทธิส่วนที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ (ถ้ามี) และเช็คขีดคร่อมเฉพาะสั่งจ่ายเงินตามจำนวนเศษของสิทธิ ให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยแจ้งให้ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมารับด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิประสงค์ที่จะใช้ บริการของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์และเข้าสู่ระบบซื้อขายแบบไร้ใบหุ้น (Scripless System) สามารถ กระทำได้ทันที โดยการฝากไว้ในบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งผู้ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ กรณีนี้นายทะเบียนหุ้นของบริษัท คือ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ จะออกใบหุ้นในชื่อของ "บริษัท ศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผู้ฝาก" และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะบันทึกยอดบัญชีจำนวนหุ้น ที่ บริษัทหลักทรัพย์นั้นฝากหุ้นอยู่ ในขณะเดียวกัน บริษัทหลักทรัพย์นั้นก็จะบันทึกยอดบัญชีจำนวนหุ้นที่ผู้ใช้สิทธิซื้อ หุ้นสามัญฝากไว้และจะออกหลักฐานการรับฝากให้กับผู้ใช้สิทธิภายใน 45 วันนับจากวันปิดการใช้สิทธิซื้อหุ้น สามัญ ในกรณีนี้ผู้ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจะสามารถขายหุ้นที่ได้รับการจัดสรรในตลาดหลักทรัพย์ได้ทันที ที่ ตลาดหลักทรัพย์รับหุ้นสามัญใหม่ที่เกิดจากการใช้สิทธิเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนสถานภาพของใบสำคัญ แสดงสิทธิ ที่อยู่ระหว่างการแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ และบริษัทอยู่ระหว่างจดทะเบียนเพิ่มทุน เพื่อรองรับการใช้สิทธิ มีสถานภาพและสิทธิเช่นเดียวกับใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่ได้แสดงความจำนงใน การใช้สิทธิ และสถานภาพนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อมีรายชื่อของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ปรากฏอยู่ในทะเบียน ผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัท ที่กระทรวงพาณิชย์รับจดทะเบียนหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดง สิทธิข้างต้นแล้ว สำหรับกรณีที่มีการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิย้อนหลัง ให้แก่ใบสำคัญ แสดงสิทธิที่อยู่ระหว่างการแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ และบริษัทอยู่ระหว่างจดทะเบียนเพิ่มทุนเพื่อ รองรับการใช้สิทธิ บริษัทจะดำเนินการออกหุ้นสามัญใหม่เพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว โดยเร็วที่สุด ตามจำนวนที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสมควรจะได้รับ หากราคาการใช้สิทธิที่ได้ปรับใหม่นั้น มีผลใช้บังคับ โดยหุ้นสามัญส่วนที่ออกให้เพิ่มนี้อาจได้รับช้ากว่าหุ้นสามัญที่จะได้รับก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่เกิน 45 วันนับจากวันที่มีการปรับสิทธิ ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถจัดให้มีหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1. บริษัทจะชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มาแจ้งความจำนงที่จะใช้สิทธิในวันกำหนด การใช้สิทธิแต่ละครั้ง ยกเว้นกรณีตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน เรื่องข้อจำกัดในการโอนใบแทนใบสำคัญ แสดงสิทธิในส่วนที่ 3 ข้อ 2.2.5 โดยบริษัทจะจัดให้มีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ เพื่อพัก การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ ภายใน 30 วัน นับจากวันกำหนดการใช้สิทธิที่บริษัทไม่สามารถจัดให้มีหุ้นสามัญ เพื่อรองรับการใช้สิทธิได้อย่างเพียงพอ ทั้งนี้ เพื่อทำการตรวจสอบรายชื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเท่านั้น ซึ่งการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธินี้จะไม่มีผลกระทบต่อราคาการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิแต่ อย่างใด 2. การชดใช้ค่าเสียหายตามข้อ 1. ข้างต้น บริษัทจะชำระเป็นเช็คขีดคร่อมสั่งจ่ายเฉพาะ และ แจ้งให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมารับด้วยตนเองภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้สิทธิข้างต้น 3. การคำนวณค่าเสียหายที่บริษัทจะชดใช้ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ ตามข้อ 1. ข้างต้น มีสูตรการคำนวณดังนี้ ค่าเสียหายต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย = B * [ MP - Price ] โดยที่ B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ไม่สามารถจัดให้มี และ/หรือ เพิ่มขึ้นได้ตามอัตราการใช้สิทธิที่ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นต่อ 1 หน่วย MP คือราคาตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัท ตามรายละเอียดที่กำหนดใน หนังสือชี้ชวน ส่วนที่ 3 ข้อ 1.15.1 (ง) Price คือราคาการใช้สิทธิซึ่งกำหนดไว้ที่ 10 บาทต่อหุ้นหรือจากการใช้สิทธิตามเงื่อนไขการ ปรับสิทธิ หากมีการปรับราคาการใช้สิทธิ และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิ ข้อจำกัดในการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1. การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิบริษัทไม่มีข้อจำกัดการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ เว้นแต่การโอนเกิดขึ้น ในช่วงปิด สมุดทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อพักการโอนสิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัทอาจปิดสมุด ทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ เพื่อพักการโอนหรือการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ในกรณีดังต่อไปนี้ ก) การใช้สิทธิครั้งสุดท้ายจะปิดสมุดทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ 21 วันก่อนวันครบกำหนด การใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ข) หากใบสำคัญแสดงสิทธิถูกเรียกใช้สิทธิโดยคณะกรรมการตามกฎ และเงื่อนไขที่กำหนด ค) ถ้าบริษัทมีหุ้นสามัญไม่เพียงพอสำหรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิในกรณีที่วันปิดสมุด ทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิตรงกับวันหยุดทำการให้เลื่อนเป็นวันเปิดทำการถัดไป 2. บุคคลที่ไม่ใช่สัญชาติไทย 2.1 ข้อบังคับข้อที่ 11 ของบริษัทระบุไว้ว่าหุ้นของบริษัทให้โอนกันได้โดยไม่มีข้อจำกัด เว้นแต่ การโอนนั้นทำให้บริษัทเสียสิทธิและผลประโยชน์ที่บริษัทพึงได้รับตามกฎหมาย และเป็นสาเหตุ ให้คนต่างด้าวถือหุ้นอยู่ในปริษัทเกินกว่าร้อยละ 49 (ร้อยละสี่สิบเก้า) ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้ว ทั้งหมดของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับของบริษัท ในหมวด ที่เกี่ยวกับการโอนหุ้นภายหลังการออกใบสำคัญแสดงสิทธินี้ โดยให้ถือว่าการแก้ไขข้อบังคับมีผล บังคับต่อเงื่อนไขการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธินี้ นับแต่วันที่ได้รับจดทะเบียนจากกระทรวง พาณิชย็เป็นต้นไป 2.2 บริษัทจะไม่ออกหุ้นสามัญให้แก่ผู้ใช้สิทธิที่มิใช่สัญชาติไทย จนถึงระดับที่มีผลให้สัดส่วนการ ถือหุ้นของคนที่ไม่ใช่สัญชาติไทย ตามสัดส่วนที่ระบุในกฎข้อบังคับของบริษัทหรือตามบัตรส่งเสริม การลงทุน 2.3 หากข้อจำกัดการโอนดังกล่าวข้างต้นมีผลทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญ แสดงสิทธิที่ไม่ใช่สัญชาติไทย ที่ได้ดำเนินการใช้สิทธิตามวิธีการใช้สิทธิ ไม่สามารถใช้สิทธิได้ ตามจำนวนที่ระบุในใบแจ้งความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิจะสามารถเลือกให้บริษัทดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ (ยังมีต่อ)